บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2018
รูปภาพ
วิธีการ ทำให้แมวที่ติดสัดสงบลง 1 รู้ว่าแมวมีอาการติดสัด.  ขอให้แน่ใจว่าพฤติกรรมที่แมวแสดงออกมานั้นเป็นอาการติดสัดจริงๆ ไม่ใช่อาการป่วย แมวที่ยังไม่ทำหมันและมีอาการติดสัดจะร้องเยอะ กระสับกระส่าย ถูตัวกับคนหรือสิ่งของ และกลิ้งไปมาบนพื้น ถ้าคุณลูบที่บริเวณหลังส่วนล่างของมัน มันจะตอบสนองโดยการกระดกบริเวณบั้นท้ายขึ้นและหางจะเบี่ยงไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง [3] ในช่วงฤดูผสมพันธุ์สำหรับแมวนั้นอยู่ระหว่างช่วงฤดูร้อน มันมีแนวโน้มว่าจะติดสัดในช่วงเวลานี้ของปี ระบุว่าแมวของคุณติดสัดหรือว่าป่วยกันแน่ ถ้ามันดูกระสับกระส่าย แต่ไม่ถูตัวมันเองกับอะไรเลยและไม่ยกหางให้เบี่ยงขึ้น มันอาจจะกำลังเจ็บอยู่ก็ได้ ให้พาแมวไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้น 2 แยกแมวตัวเมียออกจากแมวตัวผู้.  เมื่อแมวตัวเมียติดสัด แมวจะรู้สึกระทึกตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อมีแมวตัวผู้อยู่ด้วย อย่าให้แมวตัวเมียออกไปนอกบ้านเด็ดขาดและปิดหน้าต่างและล็อคประตูทุกบาน รวมถึงประตูสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย ในการทำให้มันสงบลง (และป้องกันไม่ให้มันตั้งท้อง) คุณจำเป็นต้องแยกมันออกจากแมวตัวผู้ทุกตัว การแยกมันออกมาจะทำให้มันปลอดภัย ...
รูปภาพ
วิธีไล่แมว หมดห่วงเรื่อง กลิ่นขับถ่ายและมูลแมว ในรั้วบ้าน ไล่แมวด้วยน้ำส้มสายชู แมวไม่ชอบกลิ่นของน้ำส้มสายชูค่ะ การไล่แมวด้วยวิธีนี้คือ เทน้ำส้มสายชูใส่ฟ็อกกี้ แล้วพ่นรอบๆ บริเวณบ้านให้ทั่ว โดยเฉพาะในจุดที่เรามักพบแมวเป็นประจำ จะช่วยให้แมวไม่มาเข้าใกล้บริเวณบ้านเราอีกค่ะ โรยพริกบริเวณที่แมวมักมาขับถ่าย พริกป่น หรือ พริกไทย ก็สามารถไล่แมวได้เช่นกันค่ะ โดยโรยพริกป่น หรือ พริกไทยไว้บริเวณที่แมวมักมาขับถ่ายไว้ แมวจะไม่มากวนใจคุณจนกว่า พริกที่โรยไว้จะหายไปค่ะ ไล่แมวด้วยเปลือกส้ม เปลือกมะนาว หรือ มะกรูด ถ้ามีผลมะกรูดก็ง่ายดายมากเลยค่ะ แค่ฝานเป็นแผ่น และนำไปวางไว้ตรงจุดที่แมวชอบเข้ามาอยู่ หรือ วางให้ทั่วบริเวณบ้าน จะช่วยไล่แมวไปได้ หรือหากแมวมักมานอนหน้ากระโปรงรถของคุณ ก็สามารถแก้ได้โดยนำมะกรูดมาผ่าครึ่งใส่จานแล้วนำไปวางไว้หน้ากระโปรงรถ วิธีนี้จะช่วยไล่แมวได้ค่ะ อีกวิธีคือ นำเปลือกมะนาว เปลือกส้ม หรือ ผลมะกรูดอย่างใดอย่างหนึ่ง มาปั่นให้ละเอียด นำมาผสมกับน้ำเปล่า ใส่ฝักบัวรดน้ำ แล้วรดให้ทั่วขอบรั้วบ้าน สนามหญ้า หรือรอบๆ บริเวณบ้าน ก็จะช่วยไล่แมวไม่ให้เข้ามาขับถ่าย ยุ่มย่ามในสวนของเรา...
รูปภาพ
วิธีดูแลอาหารการกิน ของน้องแมวเปอร์เซีย        1.อาหารลูกแมวเปอร์เซีย ลูกแมวเปอร์เซียสามารถกินอาหารเสริมได้ตั้งแต่อายุได้ 4 สัปดาห์หรือหนึ่งเดือนขึ้นไป โดยนำ อาหารเม็ดสำหรับลูกแมวแช่ในน้ำซุปหรือน้ำต้มสุกจากนั้นนำไปปั่นจนละเอียด แล้วใช้ไซริงก์ขนาด 3 CC ป้อนในในช่วงแรกๆวันละ 2-3เวลา เพื่อให้ลูกแมวคุ้นเคยกับรสชาติอาหารและการกินอาหารแทนนมแม่  แล้วค่อยๆ ฝึกให้แมวกินอาหารเม็ดหากสังเกตว่าเริ่มกินอาหารเม็ดได้เองแล้ว ให้ลดปริมาณอาหารที่ป้อนลงจนเหลือวันละ 2 เวลาเช้าและเย็น 2.อาหารแมวโต สำหรับการให้อาหารแมวเปอร์เซียที่เริ่มโตเป็นแมวรุ่น ในช่วงนี้อาหารจะเหลือเพียง 2 เวลา คือเช้า และเย็น ผู้เลี้ยงอาจให้แมวกินอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกซึ่งเป็นอาหารสำเร็จรูป ในอัตราส่วนที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของแมว สิ่งสำคัญควรฝึกการกินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ทิ้งอาหารไว้ในภาชนะให้แมวกินทั้งวัน เพราะนอกจากทำให้แมวติดเป็นนิสัยแล้ว อาหารที่เหลืออาจมีแมลงวันตอมและทำให้อาหารบูดเสีย เมื่อแมวกินเข้าไปอาจทำให้ท้องเสียได้ 3.อาหารแมวแก่ การให้อาหารแมวแก่ ทั้งแมวไทยและแมวเปอร์เ...
รูปภาพ
15 วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย 1. หมั่นแปรงขนเป็นประจำ          จุดเด่นของแมวเปอร์เซียนั้นอยู่ที่ขนนุ่มยาวของมัน ที่ทำให้แมวเปอร์เซียดูสง่าหรูหรามากกว่าพันธุ์ไหน ๆ จนเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย เราจึงควรดูแลขนของมันให้ดูนุ่มสลวยอยู่เสมอ ด้วยการใช้หวีแปรงขนให้แมวของคุณ อย่างน้อยวันละ 15 นาที นอกจากนี้ ควรเน้นในจุดที่น้องแมวของคุณไม่สามารถเอื้อมไปเลียขนไม่ถึง เป็นพิเศษด้วย เช่น ที่คอ ขา และหาง   2. อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป        แม้ว่าแมวอ้วนกลมจะดูน่ารักน่าเอ็นดูก็เถอะ แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้อ้วนจนเกินไป เพราะมันจะไม่ดีกับสุขภาพร่างกายของเจ้าเหมียวแน่ ๆ แต่ถ้าหากเผลอตามใจจน  "เสียแมว"  ไปแล้วล่ะก็ ยังไม่สายที่คุณจะจับเขามาเข้าคอร์สไดเอทด้วยการเลือกอาหารลดน้ำหนักสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือปรับลดเนื้อสัตว์ เพิ่มผักทีละน้อย และเพิ่มขึ้นในทุก ๆ มื้อจนกว่าเจ้าเหมียวจะคุ้นชิน ซึ่งแรก ๆ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณอาจจะไม่ปลื้ม และกินอาหารได้น้อยลง แต่นั่นล่ะ คือผลลัพธ์สู่หุ่นสวยสุขภาพดี ดังนั้น จงอย่าใจอ่อนเลยเชียวล่ะ อย่างไรก็ตา...